วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

คิงเลียร์ ราชาบ้ายอ

                                                  คิงเลียร์ราชาบ้ายอ(king   leir)
       วรรณกรรมของวิลเลียม     เชกเสปียร์
พระองค์เป็นพระราชายุคโบราณของอังกฤษ เรื่องราวของพระองค์เป็นอุทาหรณ์เตือนใจคนชอบการ สรรเริญเยินยอเป็นสำคัญ




เรื่องเล่ากันมาว่าในรัชสมัยของคิงเลียร์องค์นี้ แม้ว่าพระองค์จะทรงทำนุบำรุงงานช่างจนกระทั้งนำความร่ำรวยมาให้บ้านเมืองเป็นอย่างมากก็ตาม แต่คิงเลียร์ผู้ยิ่งใหญ่กลับมีจุดอ่อนสำคัญให้ โกเนริล (Goneril) และ รีแกน (Regan) ราชธิดาของพระองค์เองจับได้ นั่นคือเรื่องที่ท่านชอบฟังคำสรรเสริญเยินยอเป็นอย่างมาก ดังนั้นราชธิดาสององค์นี้จึงช่วยกันสรรเสริญเยินยอพระบิดาทุกวี่ทุกวันว่าพระองค์ทรงฉลาดหลักแหลมและแข็งแกร่งต่างๆ นานา ก็น่าสงสารอยู่พอควรละสำหรับคนชอบ โดยไม่รู้เลยว่าเขาเอายาพิษหยดให้กินทุกวัน ในที่สุดด้วยอาการปลาบปลื้มลืมตนเช่นนั้นคิงเลียร์ก็ยกแผ่นดินหนึ่งเสี้ยว (แปลว่าหนึ่งในสี่) ให้เป็นสินสมรสติดตัวในตอนที่โกเนริลแต่งงานกับดยุคแม็คลอรัส แห่งอับบานี และอีกเสี้ยวให้รีแกน ตอนที่เธอแต่งงานกับดยุคเฮวีนัสแห่งคอร์นอวอลล์



คอร์ดีเลีย ราชธิดาองค์สุดท้องทรงทราบเล่ห์กลของเชษฐภคินี แม้ว่าจะแสนสงสารราชบิดาของพระองค์ แต่ก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้มากนัก พระนางปฏิเสธทรัพย์ที่พระราชบิดาจะยกให้ และอยู่คอยปรนนิบัติจนกระทั่งแต่งงานไปกับกษัตริย์อกาพินนัส แห่งฝรั่งเศส และต้องเสด็จไปอยู่ร่วมกัน



ในไม่ช้าไม่นานหลังจากนั้น โกเนริลและรีแกนก็รวบเอาอาณาจักรที่เหลืออยู่เป็นของตนเอง ต่างแบ่งสันปันส่วนกันเหมือนไม่เห็นหัวคิงเลียร์เลย ทั้งโกเนริลและรีแกนพากันริบทรัพย์สินอื่นๆ ไปมากมาย ลูกเขยสองคนว่าร้ายแล้วยังยอมทิ้งสมบัติบางชิ้นซึ่งเป็นของที่ได้มายามพระองค์อยู่ในความรุ่งเรืองไว้ให้แต่ลูกสาว       ร้ายกว่านั้นตรงที่ว่าเอาไปหมดไม่เหลืออะไรเลยยกเว้นมหาดเล็กเพียงคนเดียว ราชาเลียร์ตอนนี้หลังชนกำแพงแล้วล่ะ เมื่อรุกรานกันมากนักก็ต้องสู้พระองค์หนีไปหาราชธิดาคอร์ดีเลียที่ฝรั่งเศส ซึ่งพระราชินี  คอร์ดีเลียก็โน้มน้าวให้สวามีจัดกองทัพให้พระราชาบิดากลับไปทวงดินแดนคืน



คิงเลียร์แสดงให้เห็นความเป็นสิงห์เฒ่าอย่างแท้จริง พระองค์สามารถนำทัพกลับไปตีกองทัพของแม็คลอรัสและเฮวีนัสจนและได้อาณาจักรกลับคืนมา งานนี้ไม่ได้บอกว่าลงโทษลูกสาวจอมแสบทั้งสองยังไร บอกแต่ว่าหลังจากนั้นเพียงสามปีพระองค์ก็จากไปสู่ปรโลก พระศพของพระองค์ถูกฝังใกล้ปราสาทเลียร์ ซึ่งรู้จักกันในนาม เลชเตอร์ (Leicester) ในปัจจุบัน



เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้มีอำนาจทั้งหลายอย่างดีเลย ว่าบางครั้งศัตรูตัวจริงไม่ได้อยู่ไกลตัวเลย คนใกล้ๆนี่แหละสำคัญนักล่ะ…

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

วันครู

ความหมายของครู




ครู หมายถึง ผู้อบรมสั่งสอน ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและประเทศชาติ



ความสำคัญของครู



ในชีวิตของคนเราถือว่า บิดามารดา เป็นผู้มีพระคุณอันสูงสุด เพราะท่านเป็นผู้ให้ชีวิต ให้ความรัก ให้ความเมตตา มีความห่วงใย และเสียสละเพื่อลูก นอกจาก บิดามารดา แล้ว ก็มีครูเป็นผู้มีพระคุณคล้าย บิดามารดา คือ เป็นผู้อบรมสั่งสอนถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ รวมทั้งให้ความรัก ความเมตตาต่อศิษย์ทุกคน นับได้ว่าครูเป็นผู้เสียสละที่ไม่แพ้บุพการี



ครูจึงนับเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมาก ในการให้การศึกษาเรียนรู้ ทั้งในด้านวิชาการ และประสบการณ์ ตลอดเป็นผู้มีความเสียสละ ดูแลเอาใจใส่ สั่งสอนอบรมให้เด็กได้พบกับแสงสว่างแห่งปัญญา อันเป็นหนทางแห่งการประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเอง รวมทั้งนำพาสังคมประเทศชาติ ก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ฉะนั้นวันที่ 6 ตุลาคม จึงได้เป็นวันครูสากล เพื่อคนที่เป็นครูทั่วโลกที่เสียสละนำพาเราทุก ๆคน ไปถึงฝั่งฝันนั่นเอง













ประวัติความเป็นมา



วันครู ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ.2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภา เป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกัน ก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษาธิการ ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครู และครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้ และความสามัคคีของครู



ทุกปีคุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และซักถามปัญหาข้อข้องใจต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา เป็นผู้ตอบข้อสงสัย สถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา



พ.ศ.2499 ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป.พิบูล สงคราม นายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า



"ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่า วันครู ควรมีสักวันหนนึ่งสำหรับให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้แสดงความเคารพสักการะต่อวันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง"



จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่นๆ ที่ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก ในปีเดียวกันที่ให้มีวันครูเพี่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพจารย์ ส่งเสริมความสามัคคีธรรมระหว่างครูและพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน



คณะมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2499 ให้วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็น วันครู โดยถือเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2488 เป็น วันครู และให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าว



งานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2500 ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงาน ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญ คือ หนังประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

คำขวัญวันเด็ก2555

คำขวัญวันเด็ก


คำขวัญวันเด็ก เป็นคำขวัญที่นายกรัฐมนตรีมอบให้เด็กไทย เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติของทุกปี โดยคำขวัญวันเด็กมีขึ้นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2499 ในสมัยที่จอมพล ป.พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตั้งแต่ พ.ศ. 2502

จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้คุณค่าความสำคัญของเด็ก จึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคติเตือนใจสำหรับเด็กปีละ 1 คำขวัญ (ก่อนถึงวันเด็กแห่งชาติ) นายกรัฐมนตรีสมัยต่อมา จึงได้ถือเป็นธรรมเนียมสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน



นายยกรัฐมนตรี ให้คำขวัญวันเด็ก ปี 2555 " สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี"